ความคุ้มค่าของเงิน ในเชิงจิต

                โดยปกติแล้วแต่ละคนนั้นจะให้ค่าของเงินที่มูลค่าที่แตกต่างกัน เพราะอะไร? อย่างเช่นในหนังสือชื่อ "Secret of the millionaire mind" กล่าวว่าไว้ประมาณว่ามนุษย์เรานั้นมีพฤติกรรมการใช้เงินที่แตกต่างกัน จึงทำให้ค่าของเงินซึ่งมีจำนวนเท่ากันนั้นมีค่าแตกต่างกัน เพราะ ในแต่ละคนนั้นจะมี เช่น เรื่องประสบการณ์การใช้เงิน ความเคยชิน การถูกเลี้ยงดูจากพ่อแม่ ฯลฯ ตัวอย่างเช่น บางคนตอนเป็นเด็กไม่ค่อยได้ใส้เสื้อผ้าสวยแพงๆ เพราะพ่อกับแม่จะสอนและห้ามเสมอว่า ความสวยๆงามนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้คนนิสัยไม่ดี และเขาจะถูกตำหนิเสมอเมื่อซื้อเสื้อผ้าแพงๆ แต่ตอนที่เด็กคนนั้นไปโรงเรียนก็เห็นเพื่อนๆแต่งตัวสวยๆและเห็นเพื่อนๆเป็นคนนิสัยดี เขาจึงเกิดความสงสัย และต่อต้านต่อทัศคติของพ่อแม่ แต่เขาก็ได้แค่คิดและสงสัยเพราะไม่กล้าขัดใจพ่อแม่ และเมื่อเขาโตขึ้น แยกตัวออกจากพ่อแม่มา และหาเงินได้ด้วยตัวเอง เขาก็ได้ใช้เงินเดือนจ่ายไปกับเสื้อผ้าราคาแพงๆไปจนหมด ทำให้เขามีเงินขาดมืออยู่บ่อยๆ ดังนั้นการเลี้ยงดูและจิตใจที่ต่อต้านกับการเลี้ยงดูจากพ่อแม่จึงทำให้ส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้จ่ายของบุคคลได้ ส่วนอีกคนนึงเห็นพ่อแม่ทำงานหนักมาตลอด และเห็นการใช้จ่ายของพ่อแม่มีความคุ้มค่าและเหมาะสมกับสถานะการณ์และสถานะภาพของครอบครัวมาตลอด และพอคนนี้โตขึ้นมาและสามารถหาเงินได้เอง เขาก็ใช้เงินอย่างคุ้มค่าตามที่จิตใจของเขาพอใจกับการที่เห็นพ่อแม่ได้ใช้เงินเลี้ยงดูเขามาอย่างมีเหตุมีผล และเพราะจิตใจของเขาไม่ต่อต้านกับพฤติกรรมของพ่อแม่ จะเห็นได้ว่าจิตใจของทั้ง 2 คนมีความเห็นในเรื่องเงินที่แตกต่างกัน เพราะจิตใจของคนให้ความสำคัญและคุณค่ากับเงินที่แตกต่างกันออกไป อย่างที่เห็นชัดเจนในปัจจุบันคือ พฤติกรรมการใช้เงินของคนรวยที่สร้างฐานนะด้วยตัวเอง และพฤติกรรมการใช้เงินของคนจนนั้นก็แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง จึงทำให้เห็นว่าบางทีนั้นจำนวนเงินมีก็ความสำคัญน้อยกว่าการที่จิตใจของแต่ละคนนั้นให้ค่ากับเงิน อย่างเช่น มีเงินจำนวน 15,000 บาท นาย A บอกว่าหาง่ายมาก และต้องใช้กำลังไม่มากในการหา(อาจจะรวยมากกว่านั้นอยู่แล้ว) ส่วนนาย B บอกว่าเขาต้องใช้พลังงานมากและใช้เวลานานในการหาเงินจำนวนนี้ได้ และเมื่อมาถึงวันที่ทั้งสองคนต้องจ่าย หรือต้องเสียเงินจำนวนนี้ไป ทั้ง 2 คนนี้จะให้ค่าของเงินที่แตกต่างกันออกไป อย่าง นาย A อาจจะยอมจ่ายหรือเสียเงินนี้โดยไม่ไตร่ตรองเลยก็ว่าเพราะเขามั่นใจเป็นอย่างมากว่าเขาสามารถหากลับคืนมาได้ไม่ยากมาก แต่สำหรับนาย B เขาต้องคิดพิจารณาอย่างถี่ถ้วน เรื่องความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด เพราะเขาได้เงินจำนวนนี้มาอย่างยากลำบาก ดังนั้นเรื่องของการให้ค่าของเงินนั้น  หรือเรื่องของการใช้จ่ายเงินนั้นเป็นเรื่องของจิตใจของแต่ละคน และจิตใจนั้นก็เป็นตัวควบคุมพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนๆนั้น  อีกอย่างเช่นในตลาดที่มีการประมูลการซื้อ-ขายอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีการขึ้น-ลงของราคาอย่างรวดเร็ว ทั้ง 2 คนเข้าไปประมูลซื้อ-ขายอย่างรวดเร็วในตลาด โดยทั้ง 2 คนมีต้องการส่วนต่างจากราคา ทำให้ทั้ง 2 คนนี้มีจุดที่จิตใจยอมรับการเสียเงิน หรือยอมรับความเสี่ยงมากน้อยแตกต่างกัน  จึงทำให้ทั้ง 2 คนนี้มีทัศนคติต่อเงินของตัวเองแตกต่างกันจากราคาที่เปลี่ยนแปลงนั้น ดังนั้นมุมมองในเรื่องคุณค่าเงินนั้นของแต่ละบุคคลจึงมักไม่เท่ากัน...

--การรับความเสี่ยงของคนเลยไม่เท่ากัน !

https://www.facebook.com/toato