สิ่งที่อยากฝากไว้...(จริงๆนะ)
ไม่มีอะไรที่อยากจะบอกนอกจาก ผมเป็นห่วง
เป็นใยท่านผู้อ่านทุกท่านนะครับ ผมพูดโดยไม่ได้กอปปี้จากคำพูดของ ส.ส.ท่านไหนมาเลย
มันออกมาจากเส้นเลือดใหญ่ในหัวใจของผมเลยครับ
และกระผมข้าผู้น้อยก็ไม่ได้มีของฝากเป็นกระเป๋าหลุยส์
หรือเสื้อผ้าแบรนด์เนมอะไรอย่างนั้นหรอกนะครับ
ก็มีแต่ใจและข้อคิดนิดๆหน่อยก่อนจะจบหนังสือเล่มนี้เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ฉุกคิดกันอีกสักหน่อยนะครับ
ซึ่งก็มีอยู่ดังนี้ขอรับ
#การแข่งขัน (Competition)
อย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ว่าในสังคมปัจจุบันมีการแข่งขันกันตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็น FIFA ,LALIGA, Premier League หรือแม้กระทั่ง Thai
Premier League ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด
เอาเป็นเอาตายกันไปข้างนึงกันเลยทีเดียว ซึ่งใน 12
เดือนถือว่ามีให้ดูกันตลอด
การแข่งขันในชีวิตปัจจุบันก็เช่นเดียวกัน ทุกคนต้องพยายามดิ้นรนขวายขวาย แกร่งแย่ง
ชิงดีเพื่อที่จะได้ชัยชนะมาครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกันเรื่องการเรียน
การสอบแข่งขันเข้าเรียนมหาวิทยาลัยดังๆ บางคนเรียนกับครูสมศรีที่โรงเรียนไม่พอ
ต้องไปนั่งดูครูติวเตอร์ที่คนสอนผ่านจอทีวี
และพอเรียนจบออกมาแล้วก็มาแข่งขันกันว่าใครจบออกมาจะได้ทำงานเงินเดือนสูงกว่ากัน
ทำงานเท่ห์กว่ากัน และใครมีเวลามากกว่า
และพอผ่านเข้าสู่ช่วงก่อนจะวัยทองก็มาแข่งกันเรื่องการสร้างลูกสร้างครอบครัวอีก
ซึ่งเรื่องการแข่งขันพวกนี้ก็เปรียบเสมือนเป็น Big
Match นัดสำคัญของชีวิตเหมือนกับ Man U เจอ Liver Pool เลยก็ว่าได้
แต่การแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการแข่งขันกับตัวเอง
ที่จะต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ตลอดเวลา
ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ไม่มีวันจบสิ้นจนกว่าสัปเหร่อจะเอาไปเผา
ซึ่งการแข่งขันกับใจตัวเองมันก็เป่านกหวีดเริ่มเกมส์ตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน
ซึ่งต้องต่อสู้กับใจที่มีความขี้เกียจ ความโกธร ความเหงา ต่างๆ
ที่รั้งทั้งจิตใจและร่างกายไม่ให้ออกไปทำสิ่งที่ควรจะทำ
จึงทำให้หลายคนที่ลงแข่งขันในสนามการเรียน การงานจึงมักแพ้เป็นประจำ
เพราะจิตใจของตัวเองไม่ถูกฝึกซ้อมมาอย่างดี
ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในสนามไหนก็ตามเรื่องของจิตใจถือว่าเป็นเรื่องสำคัญระดับต้นๆของทุกเรื่อง ถ้าใครฝึกฝนร่างกายและจิตใจมาดี
บวกกับประสบการณ์ช่ำชองในสนามมาพอควรก็ถือว่าได้เปรียบคู่แข่งขันไม่ใช่น้อย เปรียบเสมือนกับนักฬาที่เตรียมตัวมาดี
ซ้อมหนัก ผ่านมาหลายสนาม เขาก็ได้เปรียบผู้เล่นรายไหม่ที่เพิ่งเข้ามาในสนามเสมอ
วิธีฝึกใจให้เข้มแข็งและแข็งแรงนั้นก็ต้องให้ใจออกไปลองสนามบ่อยๆ
เรียนรู้การผิดพลาดบ่อยๆ จนชิน และช่ำชอง
จึงจะกลายมาเป็นผู้ชนะในแต่สนามแข่งขันของชีวิตได้ เพราะอย่างที่เขาว่า
"ชนะใจตนเองนั้นยิ่งใหญ่กว่าชนะสิ่งอื่นทั้งปวง"
#การให้อภัย (Forgiveness)
ในการแข่งขันฟุตบอล...ก็หนีไม่พ้นเรื่องการทำฟาล์วในสนาม
เพราะทุกคนต้องการที่จะแย่งลูกบอลมาให้ได้และจะพยายามจะเตะบอลเข้าประตูของฝั่งตรงข้าม
จึงทำให้มีการทำฟาล์วโดยมีการสกัดขา เตะแข้งเตะขากันเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน
ในชีวิตจริงก็เช่นกัน เมื่อทุกคนแกร่งแย่งชิงดีกัน
ไม่ว่าคุณจะระมัดระวังเป็นอย่างดีก็ตาม
เรื่องผิดใจกันกับคนรอบๆตัวมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ
แต่การแข่งขันในสนามนักกีฬาต้องมีน้ำใจ ให้อภัยกันได้
เพราะถ้าไม่มีการให้อภัยกันแล้วละก็กีฬาฟุตบอลก็จะกลายเป็นกีฬามวยแทนอย่างที่เห็นๆกัน
ในชีวิตจริงก็เช่นกันการให้อภัยผู้อื่นนั้นสำคัญมากๆ
ทางพุทธศาสนาก็ถือว่าการให้อภัยนั้นเป็นการให้ทานที่สูงกว่าการให้วัตถุสิ่งของ
เพราะมันสามารถยกระดับจิตใจ หรือลดระดับ Ego และความเครียดของตัวเองลงได้ และทำให้ลดการบาดหมางกันได้
เพราะไม่ว่าใครก็ตั้งใจอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น
สถาพการแข่งขันในด้านต่างๆของชีวิตจึงมีความเข้มข้นมาก ความเครียดก็เพิ่มขึ้นมาก
จึงทำให้การให้อภัยกันในสังคมจากที่มันเป็นเรื่องง่ายมันจึงกลายเป็นเรื่องยาก
แต่ลองคิดดูสิครับการให้อภัยนั้นไม่ได้ลงทุนอะไรมากเลย เริ่มที่การถ่อมตัวยอมลด Ego ของตัวเองลง
หรือไม่เห็นแก่ตัวเท่านั้นเอง เมื่อทำใจอย่างนี้ได้ก็สามารถที่จะให้อภัยผู้อื่นได้
และเราจะไม่ไปโกรธไปกลียดผู้อื่นให้เสียเวลา
และทำให้การแข่งขันต่างๆในสังคมลดความตึงเครียดลงได้มาก ผู้เล่นคนอื่นๆก็จะสบายไปด้วย
เป็นเสมือนแรงดึงดูดนะครับถ้าเราใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ต้องเคร่งเครียดมากนัก
และยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อคนอื่นๆเห็นเราสบายๆ
คนอื่นๆก็มักจะไม่เครียดตามและยิ้มกะเราไปด้วย
และเมื่อมีปัญหาก็สามารถให้อภัยกันได้อย่างง่ายๆ ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นก็ไม่รุนแรง
สังคมและคนรอบข้างก็เต็มไปด้วยคนยิ้มแย้มแจ่มใส
ผมว่ามีแต่คนเสียสติเท่านั้นแหละครับที่อยากจะอยู่ใกล้คนเห็นแก่ตัว
และผู้ไม่รู้จักมีน้ำใจนักกีฬาที่มุ่งจะทำสิ่งที่ตัวเองจะเอาให้ได้
มาให้อภัยให้ตัวเองและผู้อื่นในวันนี้เถิดครับ
จะทำให้ความกังวลและความเครียดของเราลดลงได้อย่างมาก
และการลดความเครียดได้นั้นทางการแพทย์ก็ยืนยันแล้วว่ามันสามารถลดการเกิดโรคร้ายแรงได้
อย่างเช่นโรคซึมเศร้า มะเร็ง โรคหัวใจ ฯลฯ และทำให้ชีวิตเป็นสุขมากขึ้น
มาให้อภัยกันเถิดครับ การใช้ชีวิตในสังคมจะน่ารัก น่าชม น่าอยู่มากขึ้น
ไม่ต้องไปทำตามคำสั่ง ผบ.ทร. หรือใครที่ไหน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย
เป็นการลงทุนฟรีที่ให้ผลดีเลยทีเดียว
#ความสำเร็จ (Success)
ใครๆก็รู้ว่ามันคือ
ถ้วยรางวัล เกีรติยศ ชื่อเสียง หรือเงินรางวัลอัดฉีดมหาศาลสำหรับผู้ชนะ
ซึ่งมันหอมหวานปานน้ำผึ้งเดือน 5 ที่มีคุณภาพระดับไฮคลาสที่ดีที่สุดในโลก เป็นสิ่งที่หลายๆคนไฝ่ฝันจะได้ชิมลิ้มลองสักหน่อยว่ารสชาติเป็นเช่นใด
ทุกคนจึงพากัน ดิ้นรน ขวานขวาย พยายามสุดชีวิตเพื่อที่จะได้ลิ้มลองความสำเร็จนั้น
ซึ่งบางคนก็ได้ บางคนก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร
เพราะความสำเร็จของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน นักจิตวิทยาก็ให้ความมั่นใจแล้วว่าความสำเร็จนั้นมันขึ้นอยู่กับขนาดเป้าหมายของแต่ละคน
ซึ่งถ้าใครตั้งเป้าหมายใหญ่ก็เดินทางเหนื่อยหน่อยแต่สำเร็จมาก
ส่วนใครมีเป้าหมายเล็กหน่อยก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก
แต่จะได้รับความสำเร็จน้อยหน่อยเป็นธรรมดา
แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่สำคัญเท่ากับการเดินทางไปสู่ความสำเร็จ
และที่น่าสนใจก็คือแต่ละคนมีทัศนคติ ความเชื่อ หรือศรัทธาที่แตกต่างกัน
จึงทำให้การเดินไปสู่ความสำเร็จได้นั้นต่างกัน
ซึ่งก็มีบางคนที่รอจะกินความสำเร็จอย่างเต็มอิ่มในคำเดียวในอนาคต
และก็มีบางคนที่ซอยความสำเร็จออกเป็นคำเล็กๆ แล้วดื่มด่ำกับความสำเร็จทุกวันๆ
ถึงแม้จะไม่ใหญ่มากแต่ได้ดื่มทุกวัน ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ปลายทางก็เหมือนกันคือได้ความสำเร็จ
แต่ต่างกันตรงวิธีการเดินทางเท่านั้นเอง
สำหรับผมก็คิดว่าเราไม่จำเป็นต้องรอที่จะได้ความสำเร็จที่ใหญ่แล้วกินคำใหญ่คำเดียวในอนาคตก็ได้
เพราะมันสุดโต่งและมันเสี่ยงว่าเราอาจจะไม่ได้ชิมความสำเร็จนั้นเลยก็ว่าได้
แต่ถ้าเราแต่แบ่งความสำเร็จเป็นเล็กๆย่อยๆมาไว้ในปัจจุบันทุกวันๆ
เราก็มีความสำเร็จและความสุขแบบไม่สุดโต่งได้เช่นกันแล้วละครับ
#ความดี (Goodness)
เป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆสำหรับการดำรงชีวิตของทุกๆคนบนโลก
ไม่ว่าคนจะใช้ชีวิตอยู่มุมไหนของโลกก็ตาม สิ่งนี้ขาดไม่ได้
เป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่งในทุกช่วงสถานการณ์ชีวิตของการเป็นมนุษย์
เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมโลกอยู่อย่างสันติ
เพราะสิ่งนี้เป็นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ ท่านดาไล ลามะ กล่าวไว้ว่า
บางคนไม่จำเป็นต้องมีศาสนาก็ได้แต่ต้องรู้จักดี-ชั่วนะ
เพราะมันจะทำให้ผู้อื่นในสังคมและตัวเองไม่เดือดร้อน แต่ถ้าคุณไม่รู้จักความดีละ?
แต่คุณต้องรู้นะว่า การทำร้ายผู้อื่นเป็นสิ่งไม่ดี
การไปละเมิดสิทธิผู้อื่นนั้นก็ไม่ดี การไปหลอกลวงผู้อื่นนั้นก็ไม่ดี
หรือแม้ไปลักเมียผู้อื่นนั้นไม่ดี คือต้องรู้ว่าเหล่านี้เป็นสิ่งที่ห้ามทำ
ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหนก็ตาม เพราะมันไม่ถูกต้อง
และสิ่งที่ควรจะทำในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นคือ การมีความเอื้อเฟื้อ เอื้ออาทร
และไม่เห็นแก่ตัวต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน
ลองจินตนาการดูสิครับว่ามันจะดีแค่ไหนที่สังคมเราไม่ต้องมีสงคราม
ไม่ต้องมีการฆ่าแกงกัน ไม่ต้องมีการแกร่งแย่งทรัพยากรกัน แต่ทุกคนมีแต่การมีน้ำใจ
มีความเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือ เผื่อแผ่ และมีความเมตตาต่อกันและกัน
และนี่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการใช่ไหมครับ
#ความสุข (Happiness)
มีท่อนของเพลงนึงที่ผมชอบมากเขาร้องว่า
"...ทุกชีวิต ดิ้นรน ค้นหาแต่จุดหมาย ใจในร่างกายกับไม่เจอ...
ทุกข์ที่เกิดซ้ำเพราะใจนั้นพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข..."
(ซึ่งเป็นเพลงของน้าแอ๊ด คาราบาว) ซึ่งคำว่า "หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข"
นั้นก็หมายความว่าความสุขนั้นอยู่ในใจนะ อย่าไปหาข้างนอกมาก มันอยู่ในใจเราเองนี่แหละ
ลองมองเข้าไปดูมันสิ
...กระผมก็มีสิ่งที่อยากฝากไว้เพียงเท่านี้แหละครับผม
ขอให้โชคดี มีความสุขกับการใช้ชีวิตทุกคนครับ.....สวัสดีครับ...