มารู้จักกัน คลิ๊กเลย!

มารู้จักกัน คลิ๊กเลย!
มารู้จักกัน คลิ๊กเลย!

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

สิ่งที่อยากฝากไว้...(จริงๆนะ)
                ไม่มีอะไรที่อยากจะบอกนอกจาก ผมเป็นห่วง เป็นใยท่านผู้อ่านทุกท่านนะครับ ผมพูดโดยไม่ได้กอปปี้จากคำพูดของ ส.ส.ท่านไหนมาเลย มันออกมาจากเส้นเลือดใหญ่ในหัวใจของผมเลยครับ และกระผมข้าผู้น้อยก็ไม่ได้มีของฝากเป็นกระเป๋าหลุยส์ หรือเสื้อผ้าแบรนด์เนมอะไรอย่างนั้นหรอกนะครับ ก็มีแต่ใจและข้อคิดนิดๆหน่อยก่อนจะจบหนังสือเล่มนี้เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ฉุกคิดกันอีกสักหน่อยนะครับ ซึ่งก็มีอยู่ดังนี้ขอรับ
                #การแข่งขัน (Competition)
                อย่างที่เรารู้ๆกันอยู่ว่าในสังคมปัจจุบันมีการแข่งขันกันตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น FIFA ,LALIGA, Premier League หรือแม้กระทั่ง Thai Premier League ที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด เอาเป็นเอาตายกันไปข้างนึงกันเลยทีเดียว ซึ่งใน 12 เดือนถือว่ามีให้ดูกันตลอด การแข่งขันในชีวิตปัจจุบันก็เช่นเดียวกัน ทุกคนต้องพยายามดิ้นรนขวายขวาย แกร่งแย่ง ชิงดีเพื่อที่จะได้ชัยชนะมาครอบครอง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกันเรื่องการเรียน การสอบแข่งขันเข้าเรียนมหาวิทยาลัยดังๆ บางคนเรียนกับครูสมศรีที่โรงเรียนไม่พอ ต้องไปนั่งดูครูติวเตอร์ที่คนสอนผ่านจอทีวี และพอเรียนจบออกมาแล้วก็มาแข่งขันกันว่าใครจบออกมาจะได้ทำงานเงินเดือนสูงกว่ากัน ทำงานเท่ห์กว่ากัน และใครมีเวลามากกว่า และพอผ่านเข้าสู่ช่วงก่อนจะวัยทองก็มาแข่งกันเรื่องการสร้างลูกสร้างครอบครัวอีก ซึ่งเรื่องการแข่งขันพวกนี้ก็เปรียบเสมือนเป็น Big Match นัดสำคัญของชีวิตเหมือนกับ Man U เจอ Liver Pool เลยก็ว่าได้ แต่การแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นการแข่งขันกับตัวเอง ที่จะต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ไม่มีวันจบสิ้นจนกว่าสัปเหร่อจะเอาไปเผา ซึ่งการแข่งขันกับใจตัวเองมันก็เป่านกหวีดเริ่มเกมส์ตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน ซึ่งต้องต่อสู้กับใจที่มีความขี้เกียจ ความโกธร ความเหงา ต่างๆ ที่รั้งทั้งจิตใจและร่างกายไม่ให้ออกไปทำสิ่งที่ควรจะทำ จึงทำให้หลายคนที่ลงแข่งขันในสนามการเรียน การงานจึงมักแพ้เป็นประจำ เพราะจิตใจของตัวเองไม่ถูกฝึกซ้อมมาอย่างดี ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันในสนามไหนก็ตามเรื่องของจิตใจถือว่าเป็นเรื่องสำคัญระดับต้นๆของทุกเรื่อง  ถ้าใครฝึกฝนร่างกายและจิตใจมาดี บวกกับประสบการณ์ช่ำชองในสนามมาพอควรก็ถือว่าได้เปรียบคู่แข่งขันไม่ใช่น้อย เปรียบเสมือนกับนักฬาที่เตรียมตัวมาดี ซ้อมหนัก ผ่านมาหลายสนาม เขาก็ได้เปรียบผู้เล่นรายไหม่ที่เพิ่งเข้ามาในสนามเสมอ วิธีฝึกใจให้เข้มแข็งและแข็งแรงนั้นก็ต้องให้ใจออกไปลองสนามบ่อยๆ เรียนรู้การผิดพลาดบ่อยๆ จนชิน และช่ำชอง จึงจะกลายมาเป็นผู้ชนะในแต่สนามแข่งขันของชีวิตได้ เพราะอย่างที่เขาว่า "ชนะใจตนเองนั้นยิ่งใหญ่กว่าชนะสิ่งอื่นทั้งปวง"
                #การให้อภัย (Forgiveness)
                ในการแข่งขันฟุตบอล...ก็หนีไม่พ้นเรื่องการทำฟาล์วในสนาม เพราะทุกคนต้องการที่จะแย่งลูกบอลมาให้ได้และจะพยายามจะเตะบอลเข้าประตูของฝั่งตรงข้าม จึงทำให้มีการทำฟาล์วโดยมีการสกัดขา เตะแข้งเตะขากันเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน ในชีวิตจริงก็เช่นกัน เมื่อทุกคนแกร่งแย่งชิงดีกัน ไม่ว่าคุณจะระมัดระวังเป็นอย่างดีก็ตาม เรื่องผิดใจกันกับคนรอบๆตัวมันก็เกิดขึ้นได้เสมอ แต่การแข่งขันในสนามนักกีฬาต้องมีน้ำใจ ให้อภัยกันได้ เพราะถ้าไม่มีการให้อภัยกันแล้วละก็กีฬาฟุตบอลก็จะกลายเป็นกีฬามวยแทนอย่างที่เห็นๆกัน  ในชีวิตจริงก็เช่นกันการให้อภัยผู้อื่นนั้นสำคัญมากๆ ทางพุทธศาสนาก็ถือว่าการให้อภัยนั้นเป็นการให้ทานที่สูงกว่าการให้วัตถุสิ่งของ เพราะมันสามารถยกระดับจิตใจ หรือลดระดับ Ego และความเครียดของตัวเองลงได้ และทำให้ลดการบาดหมางกันได้
                เพราะไม่ว่าใครก็ตั้งใจอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิตด้วยกันทั้งนั้น สถาพการแข่งขันในด้านต่างๆของชีวิตจึงมีความเข้มข้นมาก ความเครียดก็เพิ่มขึ้นมาก จึงทำให้การให้อภัยกันในสังคมจากที่มันเป็นเรื่องง่ายมันจึงกลายเป็นเรื่องยาก แต่ลองคิดดูสิครับการให้อภัยนั้นไม่ได้ลงทุนอะไรมากเลย เริ่มที่การถ่อมตัวยอมลด Ego ของตัวเองลง หรือไม่เห็นแก่ตัวเท่านั้นเอง เมื่อทำใจอย่างนี้ได้ก็สามารถที่จะให้อภัยผู้อื่นได้ และเราจะไม่ไปโกรธไปกลียดผู้อื่นให้เสียเวลา และทำให้การแข่งขันต่างๆในสังคมลดความตึงเครียดลงได้มาก ผู้เล่นคนอื่นๆก็จะสบายไปด้วย เป็นเสมือนแรงดึงดูดนะครับถ้าเราใช้ชีวิตสบายๆ ไม่ต้องเคร่งเครียดมากนัก และยิ้มแย้มแจ่มใส เมื่อคนอื่นๆเห็นเราสบายๆ คนอื่นๆก็มักจะไม่เครียดตามและยิ้มกะเราไปด้วย และเมื่อมีปัญหาก็สามารถให้อภัยกันได้อย่างง่ายๆ ปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นก็ไม่รุนแรง สังคมและคนรอบข้างก็เต็มไปด้วยคนยิ้มแย้มแจ่มใส ผมว่ามีแต่คนเสียสติเท่านั้นแหละครับที่อยากจะอยู่ใกล้คนเห็นแก่ตัว และผู้ไม่รู้จักมีน้ำใจนักกีฬาที่มุ่งจะทำสิ่งที่ตัวเองจะเอาให้ได้ 
                มาให้อภัยให้ตัวเองและผู้อื่นในวันนี้เถิดครับ จะทำให้ความกังวลและความเครียดของเราลดลงได้อย่างมาก และการลดความเครียดได้นั้นทางการแพทย์ก็ยืนยันแล้วว่ามันสามารถลดการเกิดโรคร้ายแรงได้ อย่างเช่นโรคซึมเศร้า มะเร็ง โรคหัวใจ ฯลฯ และทำให้ชีวิตเป็นสุขมากขึ้น มาให้อภัยกันเถิดครับ การใช้ชีวิตในสังคมจะน่ารัก น่าชม น่าอยู่มากขึ้น ไม่ต้องไปทำตามคำสั่ง ผบ.ทร. หรือใครที่ไหน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นการลงทุนฟรีที่ให้ผลดีเลยทีเดียว
                #ความสำเร็จ (Success)
                ใครๆก็รู้ว่ามันคือ ถ้วยรางวัล เกีรติยศ ชื่อเสียง หรือเงินรางวัลอัดฉีดมหาศาลสำหรับผู้ชนะ ซึ่งมันหอมหวานปานน้ำผึ้งเดือน 5 ที่มีคุณภาพระดับไฮคลาสที่ดีที่สุดในโลก เป็นสิ่งที่หลายๆคนไฝ่ฝันจะได้ชิมลิ้มลองสักหน่อยว่ารสชาติเป็นเช่นใด ทุกคนจึงพากัน ดิ้นรน ขวานขวาย พยายามสุดชีวิตเพื่อที่จะได้ลิ้มลองความสำเร็จนั้น ซึ่งบางคนก็ได้ บางคนก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่เป็นไร เพราะความสำเร็จของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน นักจิตวิทยาก็ให้ความมั่นใจแล้วว่าความสำเร็จนั้นมันขึ้นอยู่กับขนาดเป้าหมายของแต่ละคน ซึ่งถ้าใครตั้งเป้าหมายใหญ่ก็เดินทางเหนื่อยหน่อยแต่สำเร็จมาก ส่วนใครมีเป้าหมายเล็กหน่อยก็ไม่ต้องเหนื่อยมาก แต่จะได้รับความสำเร็จน้อยหน่อยเป็นธรรมดา แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่สำคัญเท่ากับการเดินทางไปสู่ความสำเร็จ และที่น่าสนใจก็คือแต่ละคนมีทัศนคติ ความเชื่อ หรือศรัทธาที่แตกต่างกัน จึงทำให้การเดินไปสู่ความสำเร็จได้นั้นต่างกัน ซึ่งก็มีบางคนที่รอจะกินความสำเร็จอย่างเต็มอิ่มในคำเดียวในอนาคต และก็มีบางคนที่ซอยความสำเร็จออกเป็นคำเล็กๆ แล้วดื่มด่ำกับความสำเร็จทุกวันๆ ถึงแม้จะไม่ใหญ่มากแต่ได้ดื่มทุกวัน ซึ่งทั้ง 2 คนนี้ปลายทางก็เหมือนกันคือได้ความสำเร็จ แต่ต่างกันตรงวิธีการเดินทางเท่านั้นเอง สำหรับผมก็คิดว่าเราไม่จำเป็นต้องรอที่จะได้ความสำเร็จที่ใหญ่แล้วกินคำใหญ่คำเดียวในอนาคตก็ได้ เพราะมันสุดโต่งและมันเสี่ยงว่าเราอาจจะไม่ได้ชิมความสำเร็จนั้นเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าเราแต่แบ่งความสำเร็จเป็นเล็กๆย่อยๆมาไว้ในปัจจุบันทุกวันๆ เราก็มีความสำเร็จและความสุขแบบไม่สุดโต่งได้เช่นกันแล้วละครับ
               
                #ความดี (Goodness)
                เป็นปัจจัยที่สำคัญมากๆสำหรับการดำรงชีวิตของทุกๆคนบนโลก ไม่ว่าคนจะใช้ชีวิตอยู่มุมไหนของโลกก็ตาม สิ่งนี้ขาดไม่ได้ เป็นสิ่งที่ควรกระทำอย่างยิ่งในทุกช่วงสถานการณ์ชีวิตของการเป็นมนุษย์ เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้สังคมโลกอยู่อย่างสันติ เพราะสิ่งนี้เป็นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ ท่านดาไล ลามะ กล่าวไว้ว่า บางคนไม่จำเป็นต้องมีศาสนาก็ได้แต่ต้องรู้จักดี-ชั่วนะ เพราะมันจะทำให้ผู้อื่นในสังคมและตัวเองไม่เดือดร้อน แต่ถ้าคุณไม่รู้จักความดีละ? แต่คุณต้องรู้นะว่า การทำร้ายผู้อื่นเป็นสิ่งไม่ดี การไปละเมิดสิทธิผู้อื่นนั้นก็ไม่ดี การไปหลอกลวงผู้อื่นนั้นก็ไม่ดี หรือแม้ไปลักเมียผู้อื่นนั้นไม่ดี  คือต้องรู้ว่าเหล่านี้เป็นสิ่งที่ห้ามทำ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ไหนก็ตาม เพราะมันไม่ถูกต้อง และสิ่งที่ควรจะทำในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นคือ การมีความเอื้อเฟื้อ เอื้ออาทร และไม่เห็นแก่ตัวต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ลองจินตนาการดูสิครับว่ามันจะดีแค่ไหนที่สังคมเราไม่ต้องมีสงคราม ไม่ต้องมีการฆ่าแกงกัน ไม่ต้องมีการแกร่งแย่งทรัพยากรกัน แต่ทุกคนมีแต่การมีน้ำใจ มีความเอื้อเฟื้อ ช่วยเหลือ เผื่อแผ่ และมีความเมตตาต่อกันและกัน และนี่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการใช่ไหมครับ
                #ความสุข (Happiness)
                มีท่อนของเพลงนึงที่ผมชอบมากเขาร้องว่า "...ทุกชีวิต ดิ้นรน ค้นหาแต่จุดหมาย ใจในร่างกายกับไม่เจอ... ทุกข์ที่เกิดซ้ำเพราะใจนั้นพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข..." (ซึ่งเป็นเพลงของน้าแอ๊ด คาราบาว) ซึ่งคำว่า "หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข" นั้นก็หมายความว่าความสุขนั้นอยู่ในใจนะ อย่าไปหาข้างนอกมาก มันอยู่ในใจเราเองนี่แหละ ลองมองเข้าไปดูมันสิ
                ฉะนั้นความสุขนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนมีอยู่ในใจของตัวเองอยู่แล้ว แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครรู้สึกถึงความสุขนั้นรึเปล่าก็แค่นั้น และความรู้สึกสุขมันเป็นของใครของมัน อย่าเอาไปเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะมีแต่จะทำให้ทุกข์ใจเปล่าๆ เพราะความสุขมันก็คือความสุข คือใจไร้ความกังวล หรือใจไร้ทุกข์อย่างสิ้นเชิงเท่านั้นเอง และผมก็เห็นว่าสำหรับการมีชีวิตอยู่นั้นเราเพียงแค่รู้สึกถึงอารมณ์ของความสุขนั้นให้ได้สม่ำเสมอก็เพียงพอแล้วละครับ ผมจึงอยากฝากว่าดูแลใจของตัวเองด้วยนะครับ ใจหนาวก็ห่มผ้าให้อุ่น ใจร้อนก็เปิดแอร์หรือเปิดพัดลม(ไม่ต้องเบอร์ 5 ก็ได้แต่ขอให้เย็น) อย่าให้ใจมันเป็นทุกข์ ประคับประคองมันให้ดี ถ้เราดูแลมันใจเราไม่ดีใครจะดูแลละ จริงไหมครับ?  และการดูแลรักษาใจตัวเองนี่แหละเป็นที่มาจากต้นตำหรับที่แท้จริงของคำว่า "ตนเป็นที่เพิ่งแห่งตน" ฉะนั้นถ้าอยากสุขก็อย่าทุกข์กันนะครับ เดี๋ยวจะขาดทุนเปล่าๆ ด้วยความปราถณาดีจากสมาคมคนนิยมความไม่ทุกข์แห่งชาติ...
...กระผมก็มีสิ่งที่อยากฝากไว้เพียงเท่านี้แหละครับผม ขอให้โชคดี มีความสุขกับการใช้ชีวิตทุกคนครับ.....สวัสดีครับ...